วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2561

SF HaeEun : ONE MORE NIGHT


          รสจูบที่แสนแปลกใหม่กำลังทำให้สติที่มีอยู่เพียงน้อยนิดเลือนหายไป เหลือเพียงไฟรักปรารถนาเท่านั้น ริมฝีปากของทั้งสองไม่ผละออกจากกัน สัมผัสที่หนักหน่วงของทงเฮกำลังทำให้ฮยอกแจล่องลอย

            รสขมปราของแอลกอฮออล์ในโพรงปากกลายเป็นความหอมหวานเย้ายวน รสจูบเร่งเร้าทำให้คนใต้ร่างหายใจติดขัด ทงเฮละริมฝีปากออกให้อีกคนได้กอบโกยอากาศหายใจแล้วกดจูบลงไปอีกครั้ง

            อื้อนิ้วเรียวของอึนฮยอกสอดเข้าไปในกลุ่มผมดำของทงเฮ ดึงรั้งระบายความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น สติสัมปชัญญะขาดพรึงเสียสิ้น มีเพียงความต้องการของกันและกัน ลืมความถูกต้องไปจนหมดสิ้น

            เสื้อผ้าของฮยอกแจถูกถอดรั้งออกไปจนหมด เหลือไว้เพียงผิวกายขาวแต้มสีแดงที่ทงเฮฝากร่องรอยเอาไว้ เขาจูบสัมผัสไปตามแผงอกขาวเนียน ดูดเลียตุ่มไตสีสวยจนแข็งชูชัน มือหนาลากสัมผัสไปตามกายบาง ลูบคลุมคลึงที่ส่วนกลางกาย

            ฮึก อื้อฮยอกแจร้องคราง บิดเร้าร่างกายด้วยความเสียว

            มึงสวยมากทงเฮเอ่ยชมไปพร้อมๆ กับการลากไล้สายตาโลมเลียคนที่นอนเปลือยเปล่า ใบหน้าบิดเบ้เมื่อทงเฮรูดรั้งแก่นกายให้ได้สุขสม

            กูอยาก ปะ ปล่อย

            กูช่วยทงเฮก้มลงไปครอบครองแก่นกายเล็กไว้ด้วยริมฝีปากของเขา มือบางจับขยุ้มที่นอนจนยัยย่นกัดริมฝีปากล่างด้วยความเสียว

            มันรู้สึกดีจนฮยอกแจครางไม่ได้ศัพท์ เคลิบเคลิ้มไปกับการกระทำของอีกฝ่าย กายบางกระตุกเกร็งเมื่อทงเฮรูดรั้งด้วยความเร็ว ปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมา ทงเฮเก็บกลืนมันลงไปอย่างไม่นึกรังเกียจ เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันที่ทำแบบนี้ มันอาจจะเพราะเขาทั้งสองขาดสติจนหมดสิ้นไปแล้ว

            ทงเฮปลดรั้งกางเกงของตัวเองออก ถอดเสื้อที่แลจะเกะกะออกไปอีกตัวจนเหลือแค่ตัวเปล่าเปลือยไม่ต่างจากคนที่นอนหอบอยู่บนเตียง หากจะต่างกันก็เพียงร่างกายที่กำยำกว่าคนตัวบอบบางที่นอนตาปรือนั่น

            ฮยอกแจพยุงตัวเองลุกขึ้น รอยยิ้มน้อยๆ ระบายบนใบหน้าที่แดงก่ำขยับเข้ามาหาทงเฮจับแก่นกายใหญ่แล้วรูดรั้ง ทงเฮจึงล้มตัวลงนอนแล้วปล่อยให้ฮยอกแจได้ช่วยเขาบ้าง

            คนตัวเล็กดูดรูดรั้งปลายแก่นจนทงเฮครางกระเส่าสุขสม ยิ่งเมื่อปลายลิ้นเลียไปตามแก่นกายที่เริ่มปวดหนึบเขาก็ยิ่งเสียวซ่าน ริมฝีปากสีสวยครอบครองแก่นกายเอาไว้จนมิดแล้วค่อยๆ รูดรั้งช้าๆ ก่อนจะเร่งเร้าและยกยิ้มเมื่อทงเฮกำลังปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมา

            ทงเฮลุกขึ้นมาแล้วพลิกกายบางลงไปนอนด้านล่างจับข้อมือขาวทั้งสองข้างขึงพรืดเหนือศีรษะ กดจูบลงไปหนักหน่วงด้วยแรงอารมณ์ที่ถาโถมหนักขึ้นๆ บดขยี้กลีบปากสวยจนช้ำขบกัดจนได้กลิ่นคาวเลือด รสชาติที่หวานหอมแปลกใหม่ปลุกเร้าอารมณ์ได้ดีเหลือเกิน

            ร่างหนาผละออกแล้วจับยกขาเรียวขาวทั้งสองข้างอ้าออกกว้าง เขาจ้องมองที่ช่องทางด้านหลังด้วยความฉงนแล้วแตะปลายนิ้วลงไป ร่างบางสะดุ้งเฮือก นิ้วเรียวแตะและสอดเข้าไปในช่องทาง ความเจ็บแล่นจี๊ดสู่ขั้วหัวใจคนตัวเล็กร้องครางออกมาด้วยความเจ็บ

            ฮึก จะ เจ็บ ฮือ

            คงจะรู้สึกดีมากถ้ากูได้เข้าไป

            อ๊ะ อ๊าส์

            ทงเฮอยากจะลองสิ่งแปลกใหม่นี้ เขาและฮยอกแจไม่เคยทำมาก่อน และไม่คิดว่าวันนี้จะมีด้วยช้ำ ร่างบางถูกจับพลิกคว่ำหน้าลงกับหมอน ทงเฮจับยกสะโพกบางมือหนาลูบไล้ก้นงอนขาวเนียนและสอดปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางอีกครั้ง สลับกับสอดปลายลิ้นร้อนเข้าไป หยดน้ำลายไหลชื้นเข้าไปในช่องทางสีหวาน ปลายนิ้วสอดเข้าไปจากหนึ่งเป็นสองและสาม

            ฮึก อ๊ะ แน่น อ๊าส์

            มือหนารูดรั้งแก่นกายเล็กเพื่อผ่อนคลายความเจ็บปวดที่อีกคนได้รับ ทงเฮรู้โดยสัญชาตญาณเขาไม่อยากให้อีกคนเจ็บแต่ก็ห้ามใจไม่ได้

            แก่นกายที่ปวดหนึบของทงเฮแตะช่องทางสีสวยแล้วกดเข้าไป ทันทีที่มันเข้าไปได้เพียงนิดช่องทางที่ไม่เคยชินก็ประท้วง ฮยอกแจร้องด้วยความเจ็บก่อนจะพยายามพาตัวเองหนีถอยแต่ทงเฮก็กดมันเข้าไปจนได้ เขารั้งสะโพกบางไว้แล้วแช่ค้าง

            หยดน้ำตาของความเจ็บปวดไหลอาบแก้ม ใบหน้าเหยเกซบลงกับหมอนกัดระบายความเจ็บจนชุ่มน้ำลาย ครางฮือไม่หยุด และไม่นานทงเฮก็ขยับสะโพกกดดันตัวตนเข้าไปในความคับแน่น

            จากความเจ็บก็คล้อยตาม ฮยอกแจเริ่มปรับสภาพร่างกายได้ เมื่อทงเฮถึงฝั่งฝันเขาถอนแก่นกายแล้วรูดรั้งจนน้ำกามารมณ์เลอะเปรอะที่ช่องทางก่อนจะจับร่างบางพลิกกายขึ้นมาเผชิญหน้ากัน ยกขาเรียวขึ้นพาดไปบนไหล่และอีกข้างฮยอกแจกอดรั้งเอาไว้เสียเอง

            ทงเฮกดดันตัวตนเข้ามาในช่องทางอีกครั้งกดกระแทกจนเสียงดัง ส่งเสียงร้องครางไปพร้อมกันด้วยความสุขสม โน้มตัวลงจูบดูดดื่มไล้เลียหยดน้ำหวานจูบซับหยดน้ำตาให้

            เขาลืมไปด้วยซ้ำว่าพวกเขาคือ เพื่อนกัน

            บทรักเริ่มต้นอีกครั้งและจบลงในเวลาเกือบเช้าแล้ว







กลับไปอ่านต่อที่เด็กดีนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น